Co-housing/Almshouse ผู้สูงอายุ คืออะไร? ทำไมอังกฤษถึงผลักดันรูปแบบการอยู่อาศัยนี้

การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุทำให้การวางแผนที่อยู่อาศัยและการสร้างสัมพันธ์ทางสังคมเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น รูปแบบหนึ่งที่ได้รับความสนใจในอังกฤษคือ Co-housing / Almshouse (ที่อยู่อาศัยแบบชุมชน) ซึ่งผสมผสานที่พักอาศัยส่วนตัวกับพื้นที่ส่วนรวมที่สนับสนุนการพบปะ แลกเปลี่ยน และดูแลกันในชุมชน เช่นกรณีล่าสุดของ Appleby Blue Almshouse ในลอนดอน ที่ได้รับรางวัล RIBA Stirling Prize 2025 เนื่องจากเป็นการตีความใหม่ ของที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุที่เชื่อมต่อกับชุมชนเมืองได้อย่างมีคุณภาพและยั่งยืน

Co-housing / Almshouse คืออะไร

  • Co-housing หมายถึงชุมชนที่ผู้อยู่อาศัยมีที่พักส่วนตัวแต่มีพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบมาเพื่อการทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ห้องครัว ห้องนั่งเล่น สวน และโปรแกรมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้าน
  • Almshouse หมายถึงบ้านพักคนชรา หรือ บ้านสงเคราะห์คนยากจน ที่ดำเนินการโดยองค์กรการกุศลในสหราชอาณาจักร (ได้แก่ อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และ ไอร์แลนด์เหนือ) ให้ที่พักราคาย่อมเยาสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้มีรายได้น้อยและมักเน้นการสร้างชุมชนที่ช่วยเหลือกัน ปัจจุบันมีประมาณ 2,600 แห่ง ให้ที่พักกว่า 30,000 ยูนิต โดยรองรับผู้อยู่อาศัยราว 36,000 คนในสหราชอาณาจักร

เหตุผลที่อังกฤษผลักดันรูปแบบ Co-housing/Almshouse ผู้สูงอายุ

1. ตอบโจทย์ปัญหาคนสูงอายุอยู่คนเดียวและความเหงา
ในปี 2024 ประมาณ 4.3 ล้านคนที่มีอายุ 65+ อาศัยอยู่คนเดียวในสหราชอาณาจักร — การอยู่อาศัยแยกตัวเชื่อมโยงกับความเหงาและปัญหาสุขภาพจิต/กายที่ตามมา ซึ่ง co-housing ช่วยลดช่องว่างนี้ด้วยการออกแบบที่ส่งเสริมการพบปะและการมีส่วนร่วมของชุมชน

2. ส่งเสริมการมีอิสระแต่ไม่เปล่าเปลี่ยว
ผู้สูงอายุยังคงมีที่พักส่วนตัว แต่ได้สิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมและใช้พื้นที่ส่วนรวม ทำให้ยังรักษาความเป็นอิสระในขณะเดียวกันก็ไม่ถูกตัดขาดจากสังคม

3. คุณค่าทางสังคมและเศรษฐกิจ
การศึกษาพบว่า almshouse และรูปแบบชุมชนผู้สูงอายุช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขและการดูแล เพราะลดการเกิดปัญหาจากการแยกตัว เช่น ภาระด้านการรักษาเรื้อรัง และยังสร้างรายได้ผ่านกิจกรรมชุมชนที่เปิดให้ภายนอกใช้บริการได้

4. การออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมที่ให้ศักดิ์ศรีและเชื่อมชุมชน
โครงการอย่าง Appleby Blue ไม่ได้ออกแบบเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยแยกตัว แต่ตั้งอยู่บนถนนที่ยังมีผู้คนสัญจรใช้งานตามปกติ สร้างความเป็นไปได้ให้ผู้คนทุกวัยเข้ามาใช้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องสมุด ห้องทำงานอดิเรก ห้องครัวและพื้นที่รับประทานอาหารรวม ทำให้เกิดการพบปะแบบไม่เป็นทางการของคนในชุมชนที่เข้ามาใช้บริการ นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมระดับประเทศ

หากประเทศไทยต้องการรับมือกับสังคมสูงวัยอย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้และดัดแปลงรูปแบบการอยู่อาศัยแบบ Co-housing/Almshouse สำหรับผู้สูงอายุอาจเป็นทางออกสำคัญ ทั้งในมิติของสวัสดิการรัฐและโมเดลที่เอกชนสามารถต่อยอดได้ แนวคิดการอยู่ร่วมกันในชุมชนที่ออกแบบเพื่อผู้สูงอายุ ไม่เพียงช่วยลดความโดดเดี่ยวและความเหงา ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในกลุ่มผู้สูงวัยไทย แต่ยังสร้างเครือข่ายความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพิ่มคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางจิตใจให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า การนำโมเดลนี้มาปรับใช้จึงอาจเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการสร้างสังคมที่ผู้สูงอายุ “อยู่ดี มีเพื่อน มีความหมาย” ได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต


ที่มาข้อมูลและรูปภาพ : https://www.archdaily.com/1035148/witherford-watson-mann-architects-wins-riba-stirling-prize-2025-for-appleby-blue-almshouse-in-london
https://www.almshouses.org/housing-and-almshouses-the-stats-and-facts/
https://theopener.co.th/2025/11/24/โครงการที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุในลอนดอน
https://landezine-award.com/appleby-blue-almshouse-by-grant-associates/

Categories

บทความล่าสุด

Tags

ค้นหา

Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors
ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

Save