“ลุมพินี วิสดอม” เปิด 12 ทำเลศักยภาพในการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ

"ลุมพินี วิสดอม" เปิด 12 ทำเลศักยภาพในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด บริษัทด้านวิจัยและพัฒนาในเครือบริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) ระบุว่า ปัจจุบันผู้ซื้อที่อยู่อาศัยให้ความสำคัญกับการซื้อที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กับความต้องการของสมาชิกในครอบครัวทั้ง 4 รุ่น ทั้งเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน รวมถึงผู้สูงวัยที่จะมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จำเป็นต้องพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบของ Universal Design รวมทั้งการพัฒนางานบริการ ที่สามารถตอบโจทย์ให้กับคนทุกวัย โดยคำนึงถึงทำเลที่เหมาะสม

 จากการสำรวจของ “ลุมพินี วิสดอม” โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบของทำเลที่ตอบโจทย์กับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุประกอบด้วย ระยะเวลาการเดินทางจากที่อยู่อาศัยถึงโรงพยาบาลใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที    มีโรงพยาบาลอยู่ในรัศมีของโครงการไม่น้อยกว่า 3 แห่ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้ชีวิต ทั้งห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ โดยแบ่งทำเลที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยจากราคาที่ดินในแต่ละทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม 12 ทำเล ประกอบด้วย

  • ทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยที่ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท (Affordable Condominium) ได้แก่ พื้นที่ มีนบุรี, รามอินทรา ก.ม. 8 และพระราม 2
  • ทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยที่ระดับราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป (Standard and Premium Condominium) ได้แก่ พื้นที่ ประชาชื่น-เกษตร, พระราม9-ศรีนครินทร์ และพระราม 4-เอกมัย 
  • ทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาบ้านพักอาศัยที่ระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท (Affordable House) ได้แก่ พื้นที่ มีนบุรี, บางใหญ่ และหนองแขม
  • ทำเลที่เหมาะสมในการพัฒนาบ้านพักอาศัยที่ระดับราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป (Standard and Premium House) ได้แก่ พื้นที่ ภาษีเจริญ, ศรีนครินทร์ และกล้วยน้ำไท

จากผลการสำรวจพบว่า ทำเลแต่ละแห่งข้างต้นมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ เนื่องจาก การเดินทางจากพื้นที่ที่อยู่อาศัยไปสถานพยาบาลที่ใกล้เคียงใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 15 นาที มีโรงพยาบาลมากกว่า 3 แห่งที่เปิดให้บริการในแต่ละทำเล ในขณะเดียวกันเป็นทำเลที่มีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอต่อการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ และสมาชิกในรุ่นอื่นๆ ของครอบครัวทั้งเด็ก และวัยทำงาน เหมาะกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปแบบของ Universal Design เพื่อคนทุกวัยในครอบครัวโดยเฉพาะผู้สูงอายุ

 

นอกจากทำเลแล้ว รูปแบบของที่อยู่อาศัยและบริการ มีความจำเป็นที่จะต้องออกแบบเพื่อตอบโจทย์กับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ จากการสำรวจพบว่า การพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยของผู้สูงอายุต้องคำนึงถึงการเลือกใช้วัสดุที่ต้องเหมาะสมโดยให้ความสำคัญเรื่องสุขอนามัย รวมถึงการออกแบบที่ให้ผู้สูงอายุอยู่อาศัยได้ง่าย เช่น ห้องน้ำต้องใช้พื้นกันลื่น มีที่จับเพื่อการประคองตัวสำหรับผู้สูงอายุ เป็นต้น ลดความลาดชันในแต่ละพื้นที่ของที่อยู่อาศัย   ในขณะที่งานบริการในโครงการ ควรมีระบบการแพทย์ฉุกเฉินรองรับตลอด 24 ชั่วโมง และพร้อมที่จะส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาล มีทีมดูแลอาคารที่สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้น และกู้ชีพได้ประจำโครงการ ตลอด 24 ชม. จัดกิจกรรมภายในโครงการ เพื่อส่งเสริมด้านจิตใจและสังคมของผู้อยู่อาศัยความร่วมมือกับภายนอก ร่วมมือกับโรงพยาบาลใกล้เคียง โดยอาจรวมถึงบริการรถรับ-ส่งตลอด 24 ชม. มีส่วนลดค่ายา และแพคเกจตรวจสุขภาพประจำปีในราคาพิเศษ หรือวัคซีนประจำปี รวมถึงบริการ telemedicine ร่วมมือกับศูนย์บริการสุขภาพที่อยู่ใกล้เคียง-ฟิตเนส-ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ เป็นต้น

อ้างอิงที่มา : 

ขอขอบคุณ เนื้อหา,ข้อมูล และรูปภาพ จาก https://www.lpn.co.th/ข่าวประชาสัมพันธ์/ข่าวสารจากแอลพีเอ็น/lws-report-june-2022

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า