พระเอกหนังสูงวัย: คลิ้นท์ อีสต์วูด ดาราฮอลลีวูดในวัย 90+ (ตอน 2)

ตอนที่ 1 ได้เล่าถึงการทำงานของคลิ้นท์ อีสต์วูด ในการสร้าง กำกับ และแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูด ตั้งแต่อายุไม่ถึง 30 ปี จนกระทั่งปัจจุบันที่อายุได้ 92 ปี ความน่าสนใจอยู่ที่งานในช่วงที่สูงวัย ที่เนื้อหาแตกต่างจากช่วงที่เป็นหนุ่มที่ส่วนใหญ่แสดงเป็น ฮีโร่ ไม่ว่าจะเป็นคาวบอยหรือตำรวจ โดยหนังจะเป็นดราม่าที่อาจแทรกเรื่องบู๊บ้าง คลิ้นท์แสดงเป็นผู้สูงวัย ที่เข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องราวต่างๆ ในสังคมอเมริกันที่เปลี่ยนแปลงไป ที่เห็นได้ชัดคือการที่ผู้คนอพยพย้ายถิ่นเข้ามาอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกามากขึ้น ดังเช่นหนังเรื่อง Million Dollar Baby ที่ใช้ชื่อภาษาไทยว่า เวทีแห่งฝัน วันแห่งศักดิ์ศรี ที่เล่าไปแล้วในตอนที่ 1 สำหรับตอนนี้ก็เช่นกัน จะได้ยกตัวอย่างหนังเรื่อง Gran Torino ซึ่งสร้างในอีก 4 ปีต่อมา และเป็นหนังเรื่องแรกที่ฉายให้เห็นภาพของชุมชนชาติพันธุ์ม้งที่ย้ายจากประเทศลาวไปอยู่อาศัยในอเมริกา

หนังเรื่อง Gran Torino สร้างขึ้นปี 2008 มีชื่อภาษาไทยว่า คนกร้าว ทะนงโลก ซึ่งเป็นชื่อทั่วไปที่ไม่ได้สะท้อนใจความสำคัญของหนัง แต่คงเพื่อดึงดูดคนดูที่เป็นคนไทยที่อาจจะคุ้นชินกับภาพลักษณ์ของคลิ้นท์ อีสต์วูดในฐานะฮีโร่ 

คลิ้นท์ เล่นเป็นวอล์ท ชายชราที่ปลดเกษียณจากงานในโรงงานผลิตรถยนต์ฟอร์ด ซึ่งตั้งอยู่บริเวณไฮแลนด์พาร์ค ใกล้เมืองดีทรอยด์ เมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญของรัฐมิชิแกน หนังเปิดฉากให้เห็นว่า ชุมชนย่านนี้เริ่มซบเซา คนผิวขาวเริ่มย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่ทันสมัยมากขึ้น ในขณะที่ผู้อพยพย้ายถิ่นเข้ามาอยู่อาศัยเป็นหลัก และเริ่มมีปัญหาแก๊งค์อาชญากรรม

เมื่อภรรยาเสียชีวิตลง ลูกชายและครอบครัวซึ่งอาศัยที่เมืองอื่น พยายามชักชวนให้วอล์ทย้ายไปอยู่ชุมชนสำหรับผู้สูงวัยที่สะดวกสบายมากขึ้น เนื่องจากบ้านก็เริ่มผุพัง และสุขภาพของวอล์ทก็ย่ำแย่ลง ซึ่งความเป็นจริงวอล์ทเป็นคนสูบบุหรี่จัด และเริ่มมีปัญหาปอด มีอาการไอเป็นเลือด แต่ไม่ว่าลูกๆ จะยื่นคำขาดอย่างไร  วอล์ท ก็ไม่ยอมย้ายตามที่ลูกเสนอ 

วอล์ท มีบุคลิกภาพที่ยึดมั่นในความคิดความเชื่อของตนเอง เป็นคนเข้มแข็งเกือบจะดุดัน ด้วยภูมิหลัง การเคยเป็นทหารผ่านศึกเกาหลีในยุคต้นทศวรรษที่ 1950  เขาผูกพันกับบ้านและสิ่งมีค่าอีกอย่าง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อหนังในภาษาอังกฤษ นั่นคือ รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด โทริโน ที่เขาผลิตเอง กับเจ้าเดซี่สุนัขที่อายุมากเช่นกัน 

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ท้าว เด็กหนุ่มวัย 16-17 ปี (แสดงโดย Bee Wang ซึ่งขณะเล่นหนังอายุ 17 ปี) ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน เข้ามาขโมยรถยนต์ ตามการขู่บังคับของแก๊งค์หนุ่มม้งที่เป็นญาติ ซึ่งก็ไม่สำเร็จ ถูกวอล์ทใช้ปืนยิงขู่ไล่ไป แต่แรกวอล์ทไม่ได้สนใจเพื่อนบ้าน แต่ต่อมา  เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อมีเรื่องราวต่างๆ ที่เข้ามาทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างวอล์ทกับเพื่อนบ้านม้งใกล้ชิดกันมากขึ้น เริ่มจากการเผอิญเจอเหตุการณ์ที่ซู พี่สาวของท้าวถูกหนุ่มอันธพาลมาลวนลาม และวอล์ทเข้าไปช่วย การที่วอล์ทเข้ามาช่วยซู ทำให้ยาย แม่ และญาติๆ ซาบซึ้งในบุญคุณของวอล์ท มีฉากที่สมาชิกเครือญาติหลายคนทะยอยเอาของขวัญมาให้ และเชิญเข้าไปร่วมในพิธีที่จัดขึ้นในแบบฉบับทางจารีตของม้ง ซึ่งทำให้วอล์ทเริ่มรู้สึกประทับใจ  

ความสัมพันธ์ระหว่างวอล์ทกับท้าวเริ่มสนิทมากขึ้น เมื่อทางญาติขอร้องให้วอล์ทรับเอาท้าวเข้าช่วยทำงานในบ้าน ทดแทนกับบุญคุณของวอล์ทที่ช่วยไล่พวกชาวแก๊งค์ไม่ให้มายุ่ง  แต่แรกวอล์ทปฏิเสธ เพราะความเคยชินของการอยู่คนเดียวและพึ่งตนเอง แต่สุดท้ายเมื่อถูกรบเร้ามากๆ ก็มอบให้ท้าวช่วยทำงานบ้าน โดยวอล์ทถ่ายทอดความรู้เรื่องช่างให้ และยังฝากให้ท้าวไปทำงานกับกลุ่มที่ทำงานก่อสร้าง ทำให้ได้งาน รายได้และเริ่มมีฝีมือมากขึ้น

เรื่องเริ่มเข้าสู่ไคลแม็กซ์มากขึ้น เมื่อแก๊งค์ไม่ยอมรามือ ยังจะเข้ามาเอาท้าวเข้าไปเป็นสมาชิกให้ได้ การปะทะกันระหว่างวอล์ทกับแก๊งค์เกิดขึ้น โดยแก๊งค์ถูกซ้อมอย่างสะบักสะบอม โกรธแค้น และพากันไปฉุดซู พี่สาวของท้าวไปข่มขืน โดยทางครอบครัวไม่กล้าที่จะไปแจ้งตำรวจ

ท้าวมาขอให้วอล์ทช่วยแก้แค้น วอล์ทให้ท้าวมาหาที่บ้าน แต่เขากลับขังท้าวไว้ เพื่อไม่ให้ท้าวต้องกลายเป็นฆาตกรจากการแก้แค้นครั้งนี้  วอล์ท เดินทางไปที่บ้านของแก๊งค์ในค่ำคืนนั้น เขายืนอยู่หน้าบ้าน ตะโกนด่าแก๊งค์ด้วยเสียงดังให้เพื่อนบ้านได้ยิน พวกแก๊งค์เตรียมพร้อมอยู่แล้วบนบ้านและเตรียมเล็งปืนไปที่วอล์ท เมื่อวอล์ทดึงเอาบุหรี่มาคาบ และล้วงกระเป๋าทำท่าจะดึงอะไรออก พวกแก๊งค์ก็ระดมยิงจนวอล์ทเสียชีวิต เรื่องก็จบลงด้วยการที่ตำรวจเข้ามาจับกุมแก๊งค์วัยรุ่น และเมื่อตรวจดูร่างของวอล์ทก็พบว่าไม่ได้พกอาวุธอะไรมา โดยในกระเป๋ามีแต่ไฟแช็ค   

ในพินัยกรรม วอล์ทมอบรถ Gran Torino ที่แสนรักให้กับท้าว พร้อมทั้งฝากฝังให้เลี้ยงเจ้าสุนัข และจบฉากด้วยพิธีศพของวอล์ทที่ทางซู ท้าว และญาติที่แต่งกายด้วยชุดม้งมาร่วมพิธี

หนังเรื่อง Gran Torino ได้รับการเสนอชื่อให้ได้รับรางวัล Global Globe Award แต่สุดท้ายไม่ได้รับรางวัล แต่ถือเป็นหนังที่ประสบผลสำเร็จ ได้รายได้จากการฉายทั่วโลก 270 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 25-30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ สำหรับผู้เขียนแล้ว หนังเรื่องนี้น่าสนใจที่สำคัญสองเรื่อง เรื่องแรกคือการเป็นหนังเรื่องแรกที่แสดงให้เห็นภาพของม้งซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยที่เดิมอยู่ในประเทศลาว แต่หลังจากที่อเมริกาพ่ายแพ้ในสงครามอินโดจีนปี 1975 คนม้งที่เคยรบร่วมกับทหารอเมริกันก็กลายมาเป็นผู้ลี้ภัยในประเทศไทย จนกระทั่งย้ายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ในอเมริกาจำนวนหลายแสนคน ปัจจุบันน่าจะมีถึงรุ่นที่ 4 ที่กลายเป็นคนม้งอเมริกันแต่ยังคงความสัมพันธ์ในกลุ่มและการปฏิบัติทางจารีตในระดับที่แตกต่างกันไป คนม้งทำงานและมีบทบาทในทุกภาคส่วนงานของอเมริกา ทั้งนักการเมือง ปัญญาชน ข้าราชการ นักธุรกิจ ฯลฯ และเช่นเดียวกับพลเมืองทั่วไป มีทั้งผู้ที่ได้รับผลสำเร็จ ผู้ที่ล้มเหลว รวมทั้งผู้ที่เข้าไปพัวพันกับอาชญากรรม ดังสะท้อนออกในหนังเรื่องนี้ เรื่องที่สอง คนอเมริกันสูงวัยเอง ก็เผชิญการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่สะท้อนออกในเรื่องของวอล์ท การต้องปรับตัวอยู่ร่วมกับผู้คนที่ต่างภาษาต่างวัฒนธรรม การตัดสินใจว่าจะเข้าไปอยู่ในการดูแลของบ้านพักคนชรา โดยทิ้งบ้าน สัตว์เลี้ยงและสิ่งแวดล้อมที่เคยชิน หรือจะอยู่โดดเดี่ยวด้วยการพึ่งพาตัวเองแบบเดิม เป็นเรื่องที่ยากต่อ การตัดสินใจ

อ้างอิงที่มา

ข้อมูลสรุปจาก  https://www.rollingstone.com/tv-movies/tv-movie-lists/clint-eastwood-25-essential-movies-197838/the-mule-2018-1006169/

https://en.wikipedia.org/wiki/Clint_Eastwood

https://www.imdb.com/title/tt1205489/mediaindex

https://i2.wp.com/fb.ru/misc/i/gallery/44307/1431953.jpg

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า