เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลง และมีการสูญเสียแคลเซียมออกจากกระดูกมากขึ้น ส่งผลให้กระดูกบาง เปราะ และเสี่ยงต่อการหักได้ง่าย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ไม่ดูแลเรื่องโภชนาการหรือไม่ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ภาวะกระดูกพรุนจึงกลายเป็นปัญหาสำคัญที่ควรได้รับการป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ

สัญญาณเตือนของกระดูกบางในผู้สูงอายุมีดังนี้
- หลังโก่ง หรือความสูงลดลง
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบ่อย
- กระดูกเปราะ หักง่าย
- ฟันโยกหรือหลุดง่าย
ผู้สูงอายุควรได้รับแคลเซียม 1,000–1,200 มิลลิกรัมต่อวัน จากอาหารที่หลากหลาย เช่น นม โยเกิร์ต ชีส ผักใบเขียวเข้ม ปลาเล็กปลาน้อย เต้าหู้ และงาดำ พร้อมกับการได้รับวิตามินดีที่เพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น ซึ่งโดยทั่วไป ผู้สูงอายุควรได้รับวิตามินดีจากแหล่งอาหารเพิ่มเติม 400-800 ยูนิตต่อวัน
บทบาทของวิตามินดี
วิตามินดีมีหน้าที่ช่วยดูดซึมแคลเซียมจากลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด และช่วยควบคุมระดับแคลเซียมในกระดูก การขาดวิตามินดีในผู้สูงอายุอาจนำไปสู่ภาวะกระดูกพรุนและเสี่ยงต่อการหกล้มได้ง่าย ผู้สูงอายุสามารถรับวิตามินดีจากแสงแดดอ่อนในช่วงเช้า (ประมาณ 10–15 นาทีต่อวัน) และอาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น ไข่แดง ปลาทะเล นมเสริมวิตามินดี หรืออาหารเสริมรูปแบบเม็ดหรือแคปซูล
แนะนำอาหารเสริมวิตามินดีสำหรับผู้สูงอายุ
อาหารเสริมวิตามิน D3 มีทั้งแบบที่ให้วิตามิน D3 เพียงอย่างเดียว และแบบที่รวมสารอาหารอื่นไว้ในเม็ดเดียว เช่น แคลเซียม วิตามิน K2 หรือแมกนีเซียม ซึ่งแต่ละตัวมีบทบาทช่วยเสริมการทำงานของวิตามิน D3 เช่น
- D3 กับแคลเซียมช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น
- D3 กับ K2 ช่วยนำแคลเซียมไปสะสมในกระดูกและฟันได้อย่างถูกต้อง
- D3 กับแมกนีเซียมช่วยให้ร่างกายนำวิตามิน D3 ไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผู้สูงอายุจึงควรเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสุขภาพและความต้องการของตนเอง
- Mega We Care Calcium-D

เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง รวมถึงป้องกันโรคกระดูกพรุน. สูตรของผลิตภัณฑ์นี้เป็นแคลเซียมเหลวในแคปซูลนิ่ม ทำให้ดูดซึมได้ง่ายและรวดเร็ว. นอกจากนี้ยังมีวิตามิน D3 ซึ่งช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย
ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วย
– แคลเซียมคาร์บอเนต 1,500 มก.
เทียบเท่ากับแคลเซียม 600 มิลลิกรัม
– วิตามิน ดี3 (1.0 MIU/g) 0.2 มก.
เทียบเท่าวิตามิน ดี 3 ,200 หน่วยสากล
2. Blackmores Bio Calcium + D3

เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ให้แคลเซียมในปริมาณ 500 มิลลิกรัม และวิตามินดี 3 ในปริมาณ 200 IU ต่อเม็ด โดยแคลเซียมมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ขณะที่วิตามินดีช่วยส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสอย่างเหมาะสม ทำให้ทั้งสองส่วนประกอบทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีรับประทาน: วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร
ราคาโดยประมาณ: ขนาดบรรจุ 60 เม็ด
3. Now Foods Vitamin D-3 400 IU

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากแบรนด์ Now Foods ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้วิตามิน D3 ปริมาณ 400 IU ต่อเม็ด บรรจุในรูปแบบซอฟต์เจลที่กลืนง่าย ด้วยขนาดแคปซูลเล็ก ยาวไม่ถึงครึ่งนิ้ว จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการกลืนยา
ขนาดบรรจุ: 180 เม็ด
4 . Swisse Ultiboost Vitamin D วิตามินดี 400 แคปซูล

Swisse Ultiboost Vitamin D ให้วิตามิน D3 ปริมาณ 1,000 IU ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมกระดูกและฟัน เพิ่มการดูดซึมแคลเซียม และส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอหรือมีความเสี่ยงกระดูกพรุนในวัยสูงอายุ
5. Dary Vit Vitamin D Magnisium

เป็นอาหารเสริมที่รวมวิตามิน D3 และแมกนีเซียมไว้ในเม็ดเดียว ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน พร้อมสนับสนุนการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพแบบครบในขั้นตอนเดียว
วิธีรับประทาน : วันละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร
ราคาปกติ : 30 เม็ด
ก่อนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวหรือใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงหรือปฏิกิริยาระหว่างยา
การดูแลสุขภาพกระดูกอย่างเหมาะสมในผู้สูงอายุ ควรควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารครบถ้วน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจมวลกระดูกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว
ที่มาของข้อมูล
https://www.rama.mahidol.ac.th/fammed/th/article/patient/28jul2020-1235