การก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลทำให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งมีความเสี่ยงด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น การพลัดตกหกล้ม หรือภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา Smartwatch หรือนาฬิกาอัจฉริยะจึงไม่ใช่แค่เครื่องประดับบอกเวลาอีกต่อไป แต่กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยติดตามและเฝ้าระวังสุขภาพได้อย่างใกล้ชิด ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดความกังวลให้แก่ลูกหลานและผู้ดูแล

วันนี้ Proudly Care จะช่วยให้คุณเข้าใจหลักการเลือก Smartwatch ที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ พร้อมทั้งแนะนำ 5 ตัวเลือกที่น่าสนใจในท้องตลาดประจำปี 2568 ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นและตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง
5 เทคนิคสำคัญ! การเลือก Smartwatch ให้ผู้สูงอายุ
การเลือก Smartwatch สำหรับผู้สูงอายุควรพิจารณาจากปัจจัยด้านสุขภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์นั้นมีประโยชน์และใช้งานง่ายที่สุด
1. เลือกให้เข้ากับระบบปฏิบัติการบนมือถือ
สิ่งแรกที่ควรพิจารณาคือระบบปฏิบัติการของนาฬิกาที่สอดคล้องกับโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้งาน หากผู้สูงอายุหรือผู้ดูแลใช้ iPhone การเลือก Apple Watch หากใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android การเลือก Smartwatch ที่เป็นระบบ Android เพราะจะช่วยให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างไม่มีสะดุดและสามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้เต็มประสิทธิภาพ
2. มีเซ็นเซอร์วัดสุขภาพ
สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ควรเลือก Smartwatch ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์วัดสุขภาพที่จำเป็น เช่น
- อัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate): สำหรับการติดตามสุขภาพหัวใจเบื้องต้น
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG): สำหรับการตรวจจับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (AFib) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง
- ออกซิเจนในเลือด (SpO2): เพื่อตรวจสอบภาวะพร่องออกซิเจนที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างวันหรือขณะนอนหลับ
- การติดตามการนอนหลับ (Sleep Tracking): เพื่อวิเคราะห์คุณภาพการนอนและตรวจหาความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea
3. หากมีปัญหาเรื่องความจำ ควรเลือกรุ่นที่มี GPS
ในผู้สูงอายุบางรายอาจมีปัญหาเรื่องความจำหรือมีแนวโน้มที่จะมีอาการหลงลืม จำทางกลับบ้านไม่ได้ การเลือก Smartwatch ที่มีฟีเจอร์ GPS (Global Positioning System) จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ดูแลสามารถติดตามตำแหน่งของผู้สูงอายุได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
4. ฟังก์ชันตรวจจับการล้ม (Fall Detection)
การตรวจจับการล้มจะทำงานโดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ เมื่อนาฬิกาสัมผัสได้ว่าผู้สวมใส่ล้มลงและไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นระยะเวลาหนึ่ง นาฬิกาจะส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ติดต่อฉุกเฉินหรือบริการฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถช่วยชีวิตได้ทันเวลาในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
5. แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน
ผู้สูงอายุอาจไม่มีความคุ้นเคยกับการถอดอุปกรณ์มาเสียบชาร์จแบตเตอรี่ทุกวัน การเลือกรุ่นที่แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างต่อเนื่องและลดความยุ่งยากในชีวิตประจำวัน ควรเลือกรุ่นที่สามารถใช้งานได้หลายวันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะสามารถทำงานได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผู้สูงอายุอาจกำลังทำกิจกรรมนอกบ้าน
แนะนำ 5 Smartwatch ที่น่าสนใจสำหรับผู้สูงอายุประจำปี 2568
หลังจากพิจารณาคุณสมบัติที่สำคัญแล้ว นี่คือ 5 ตัวเลือก Smartwatch ที่โดดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุในปัจจุบัน:
1. Apple Watch Series 10
Apple Watch เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ใช้ iPhone และต้องการระบบแจ้งเตือนฉุกเฉิน + สุขภาพแบบแน่น ๆ
- ข้อดี:
- การตรวจจับการล้ม (Fall Detection) ที่แม่นยำสูง
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) และออกซิเจนในเลือด (SpO2)
- ระบบ Emergency SOS ที่สามารถโทรขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทันที
- หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและคมชัดขึ้น พร้อมโหมดตัวอักษรขนาดใหญ่และตัวเลือกการช่วยเหลือสำหรับผู้พิการทางสายตา
- ระบบ Family Setup ที่ช่วยให้ผู้ดูแลสามารถตั้งค่าและติดตาม Apple Watch ของผู้สูงอายุได้จากระยะไกล แม้ว่าผู้สูงอายุจะไม่มี iPhone ก็ตาม

2. Samsung Galaxy Watch8
สำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนระบบ Android Samsung Galaxy Watch เป็นคู่แข่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI
- ข้อดี:
- การตรวจจับการล้ม (Fall Detection) และ Emergency SOS ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เซ็นเซอร์ BioActive Sensor ที่ครอบคลุมการวัดค่าสุขภาพสำคัญ เช่น ECG, SpO2 และการวัดความดันโลหิต (ต้องใช้คู่กับเครื่องวัดความดันที่ได้รับการรับรอง)
- คุณสมบัติ AI Precision ที่วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพเชิงลึก และให้คำแนะนำที่ปรับตามผู้ใช้งานแต่ละราย
- การออกแบบที่สวยงามและสามารถปรับแต่งได้หลากหลาย ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกดีที่ได้สวมใส่
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น และระบบชาร์จเร็ว

3. Xiaomi Redmi Watch 5 Active
Xiaomi เป็นแบรนด์ที่โดดเด่นเรื่องการนำเสนอเทคโนโลยีที่คุ้มค่าคุ้มราคาเสมอ และ Redmi Watch 5 Active ก็เป็นหนึ่งในนั้น
- ข้อดี:
- หน้าจอใหญ่และสว่าง: มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 2.0 นิ้ว (อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลใน Shopee) หรือประมาณ 1.96 นิ้ว (อ้างอิงจากเว็บไซต์อื่น) ที่มีขนาดใหญ่และแสดงผลได้ชัดเจน ทำให้ผู้สูงอายุอ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่าย
- ฟีเจอร์สุขภาพครบครัน: มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง, การวัดออกซิเจนในเลือด (SpO2) และการติดตามการนอนหลับ ซึ่งเป็นฟีเจอร์หลักที่จำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน: สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 18 วัน (ในโหมดการใช้งานปกติ) ทำให้ไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ
- สามารถรับสายโทรเข้าได้: รองรับการโทรผ่านบลูทูธ (Bluetooth Calling) ทำให้ผู้สูงอายุสามารถรับสายจากลูกหลานได้โดยตรงจากนาฬิกา
- ราคาที่เข้าถึงง่าย: ราคาอยู่ในช่วง 1,000-2,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับฟังก์ชันที่ได้รับ

4. Garmin Venu 3 Series
Garmin เป็นแบรนด์ที่โดดเด่นด้าน Fitness และการติดตามสุขภาพแบบเจาะลึก ซึ่ง Venu 3 ได้พัฒนาคุณสมบัติเพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุมากขึ้น
- ข้อดี:
- ฟังก์ชัน Health Snapshot ที่สามารถบันทึกและตรวจสอบข้อมูลสุขภาพสำคัญได้ในครั้งเดียว เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ, ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV), ออกซิเจนในเลือด และอัตราการหายใจ
- การตรวจจับเหตุการณ์ (Incident Detection) ซึ่งเทียบเท่ากับการตรวจจับการล้มของแบรนด์อื่น ๆ
- หน้าจอ AMOLED ที่สว่างสดใสและคมชัด อ่านง่ายแม้ในที่ที่มีแสงจ้า
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน โดยเฉพาะในโหมด Smartwatch ที่สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 14 วัน
- ฟังก์ชัน Wheelchair Mode สำหรับผู้ใช้งานรถเข็นโดยเฉพาะ ซึ่งช่วยติดตามการผลัก (Pushes) และการแจ้งเตือนเพื่อสุขภาพที่ปรับให้เหมาะกับผู้ใช้งานรถเข็น

5. HUAWEI Band 9
เป็น Smartwatch ที่มีน้ำหนักเบามาก ทำใให้ผู้สูงอายุสวมใส่สบายตลอดวัน หน้าจอ AMOLED ชัดเจน แสดงข้อมูลสุขภาพได้ง่าย เช่น อัตราการเต้นหัวใจ และระดับออกซิเจนในเลือด พร้อมเทคโนโลยีการจัดการการนอนหลับที่ละเอียด และมีโหมดออกกำลังกายหลากหลาย รวมถึงการแจ้งเตือนที่ช่วยให้ไม่พลาดการสื่อสารสำคัญ แบตเตอรี่ทนทานใช้งานได้นานสูงสุด 14 วัน

การเลือก Smartwatch ที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงยี่ห้อหรือราคา แต่ขึ้นอยู่กับการตอบโจทย์ด้านสุขภาพและความปลอดภัยเป็นสำคัญ การพิจารณาคุณสมบัติอย่างรอบด้าน ตั้งแต่การตรวจจับการล้ม, ระบบแจ้งเตือนฉุกเฉิน ไปจนถึงความสะดวกในการใช้งาน จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือก Smartwatch ที่ดีที่สุดสำหรับคนที่คุณรักได้อย่างมั่นใจ เพราะการลงทุนในเทคโนโลยีที่เหมาะสม คือการลงทุนในความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน